จาก “พิมพ์ดีด” สู่ “คีย์บอร์ด” ในปัจจุบัน ตอนที่ 2

ย้อนจากในตอนที่แล้วได้กล่าวถึงที่มาของเครื่องพิมพ์ดีดว่ามีประวัติความเป็นมายังไง และใครเป็นคนนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นรายแรก และในบทความนี้จะกล่าวเป็นบทความต่อจากบทความที่แล้วซึ่งจะกล่าวถึงเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์และคีย์บอร์ดในการพิมพ์เอกสารและการใช้เครื่องปริ้นในการพิมพ์เอาเอกสารออกมาเป็นรายงาน ว่ามีที่มายังไงและเพราะเหตุใดจึงสามารถทำให้เครื่องพิมพ์ดีดที่ใช้กันมายาวนาน ต้องถูกโละทิ้งไปได้

สืบเนื่องจากว่าเมื่อเราพิมพ์เอกสารในเครื่องพิมพ์ดีดแล้วเกิดพิมพ์ผิดนั้น หากเอกสารนั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรก็คงไม่เป็นไร สามารถลบและพิมพ์ทับซ้ำไปได้ แต่เมื่อเอกสารฉบับนั้นเป็นเอกสารราชการที่มีความสำคัญล่ะ ไม่สามารถลบหรือแก้ไขเพิ่มเติมอะไรได้เลย เมื่อมีการพิมพ์เอกสารผิดขึ้นมาก็ต้องมานั่งพิมพ์กันใหม่ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อมีคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นมา และการลักษณะการออกแบบคีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ก็เป็นในลักษณะเดียวกับเครื่องพิมพ์ดีดที่เคยใช้กันมาก่อนหน้านี้ จึงทำให้คอมพวิเตอร์ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในช่วงแรกก็ยังไม่ได้เปลี่ยนจากเครื่องพิมพ์ดีดไปใช้คอมพิวเตอร์กันเร็วมากนักเพราะ ในตอนแรกคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องมีราคาสูงมาก และหากจะพิมพ์งานก็ต้องมีเครื่องถ่ายเอกสารพ่วงเข้ามาเป็นอุปกรณ์เสริมอีกด้วย เราจึงยังมีทั้งการใช้งานพิมพ์ดีดควบคู่กับคอมพิวเตอร์มาเรื่อยๆ จนกระทั่งบริษัทที่ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดเลิกผลิตแล้ว จึงเป็นการหันมาใช้คอมพิวเตอร์กันแบบเต็มรูปแบบ

รู้หรือไม่ว่าคีย์บอร์ดรุ่นแรกที่ทำออกมานั้น ออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของเครื่องพิมพ์ดีดที่ก้านตัวอักษรของเครื่องพิมพ์ชอบติดกันเวลาพิมพ์เร็วๆ จึงแก้ไขด้วยการนำตัวอักษรที่เราชอบพิมพ์กันบ่อยๆมาจับแยกให้อยู่ห่างกัน จะได้ไม่มีปัญหาเวลาพิมพ์เร็วๆ และคีย์บอร์ดก็เริ่มมีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ เริ่มมีการออกแบบให้การใช้งานถูกต้องตามหลักกายภาพเพื่อให้เวลาพิมพ์งานนานๆจะได้ไม่เมื่อยหรือมีปัญหาบาดเจ็บของนิ้วมือ และค่อยๆลดความแข็งของคีย์บอร์ดในยุคแรกๆให้ปุ่มกดหรือแป้นพิมพ์ค่อยๆนิ่มขึ้นและหลังจากนั้นก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ กลายเป็นคีย์บอร์ดแบบไร้สาย และในปัจจุบันก็มีคีย์บอร์ดเกมส์มิ่ง ซึ่งในตอนนี้คีย์บอร์ดไม่ได้ทำงานได้แค่การเพิมพ์ แต่ยังสามารถสั่งงานฟังก์ชั่นอื่นผ่านปุ่มบนคีย์บอร์ดได้อีกด้วย

เมื่อการเวลาเปลี่ยน ยุคสมัยเปลี่ยน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ และในตอนนี้ในโทรศัพท์เราแทบจะไม่อต้องพิมพ์เลยด้วยซ้ำ แค่พูดเข้าไป มันก็ประมวลผลออกมาเป็นในรูปแบบข้อความ และใครจะไปรู้ล่ะว่าในอนาคตข้างหน้านี้ เราอาจจะไม่ต้องมีคีย์บอร์ด ไม่ต้องพิมพ์ข้อความเองเหมือนในโทรศัพท์ก็ได้ แค่นั่งพูดๆ ข้อความที่ต้องการ คอมพิวเตอร์ก็อาจจะประมวลผลและส่งออกมาปริ้นเป็นรายงานให้เราโดยอัตโนมัติเลยก็ได้…