ก้าวสู่การเป็นผู้ดูแลระบบ Part.2

ตำแหน่งหน้าที่และงานในสายงานนี้ต่อเพิ่มจากบทความที่แล้วก็จะมีดังนี้

4.ให้คำปรึกษากับผู้ใช้งานในองค์กร

โดยที่การให้คำปรึกษานั้น จะเป็นการให้คำปรึกษากับผู้ใช้งานในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไป จนถึงผู้ใช้งานในระดับผู้บริหาร และการที่จะให้คำปรึกษาที่ดีและง่ายที่สุดก็คือการทำเป็นระบบ Intranet Web site โดยใช้ในหน่วยงานไว้สำหรับเก็บคำถคามและใช้ตอบคำถาม ที่ผู้ใช้งานจะเข้ามาถามบ่อยๆไว้ใน Intranet และผู้ใช้งานทุกคนก็ต้องสามารถเข้ามาอ่านได้

 

5.ออกกฎนโยบายสำหรับการใช้งานในเครือข่าย

การออกกฎระเบียบในการใช้งานสำหรับระบบเครือข่ายในองค์กร เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่ผู้ดูแลระบบจำเป็นที่จะต้องเป็นคนออกกฎเองหรือเป็นผู้ร่วมในการออกกฎ เช่น การใช้งานอินเตอร์เน็ต ระยะเวลาในการเข้าใช้งานเครื่ง หรือแม้กระทั่งการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ในเวลาการทำงาน การเข้าถึงเว็บไซต์ต้องห้าม หรือการดาวน์โหลดโปรแกรมอื่นๆที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากทางแผนกไอที และการติดตั้งซอฟต์แวรก็จะต้องเป็นทางฝ่ายไอทีเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ โดยที่กฏที่ออกมานั้นจะต้องเขียนให้เป็นกลางที่สุด

6.การจัดสรรทรัพยากรการแบ่งปันทรัพยากรในเครือข่าย

การจัดสรรและแบ่งปันทรัพยากรในระบบ ถือเป็นเป้าหมายแรกๆ ในการทำหรือสร้างระบบเครือข่ายขึ้นมา โดยที่ทรัพยากรที่นิยมใช้งานร่วมกันก็คือ Disk, Files, Printer, Software, Internet ฯลฯ และการจัดสรรทรัพยากรเหล่านี้ ผู้ดูแลระบบก็ควรที่จะนึกถึงระดับชั้นในการเข้าใช้งานระบบด้วย

 

7.การติดตั้งระบบ Internet Server รวมถึงระบบที่จำเป็นสำหรับใช้งานในองค์กร

ผู้ดูแลระบบจะต้องติดตั้งและปรับแต่ง Server พื้นฐานเป็น ไว้ว่าจะเป็น Web Server, File Server, NAT Server, DHCP Server, Printer Server หรือแม้กระทั่ง Proxy Server โดยที่การเรียนรู้ในช่วงแรก อาจจะต้องมี lab จำลองการใช้งานผ่านโปรแกรมเสมือน และหากทดลองใช้งานแล้วพบว่าดี จึงค่อยนำระบบมาติดตั้งและใช้งานจริง

 

8.ติดตามและเฝ้าระวัง

การติดตามและเฝ้าระวัง จะเป็นกระบวนการที่ทำหลังจากติดตั้งเครื่อง Server เสร็จแล้ว และจะเป็นการเฝ้าติดตามหรือเฝ้าระวัง ตรวจสอบการใช้งานของทางฝั่ง Server และ Client

9.ติดตั้งระบบตรวจจับและป้องกันผู้บุกรุก

ปัจจุบันอันตรายที่มากับระบบเครือข่ายมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ที่เราคุ้นหู หรือได้ยินกันมากที่สุดคงหนีไม่พ้นคำว่า ไวรัส ซึ่งอาจจะแฝงมากับโปรแกรมที่เกิดจากผู้ไม่หวังดีพัฒนาขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ อาจจะมาในรูปแบบของการเข้ารหัสไฟล์เพื่อเรียกค่าไถ่ที่กำลังระบาดหนักมากในช่วงนี้หรือก่อนหน้านี้ปีถึงสองปี โดยที่ผู้ดูแลระบบจำเป็นที่จะต้องมีความรู้หรือหมั่นหาความรู้เพื่อเตรียมตัวรับมือกับปัญหาพวกนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต